UFABETWINS อะไรคือสิ่งที่ทำให้นักเตะ ไม่มีอนาคตมาไกลขนาดนี้?

0 Comments

UFABETWINS ฝึก ฝึก ฝึก และ ฝึก “ผมไม่คิดว่าผมเป็นคนที่มีเทคนิคที่ยอดเยี่ยม การเล่นของผมง่ายมาก มันไม่ได้มีความลับอะไร แค่ทำงานให้หนักขึ้น

” เนดเวด ให้สัมภาษณ์กับ Bleacher Repor แม้ว่าจะเป็นผู้เล่นที่มีฝีเท้าที่โดดเด่น แต่สิ่งที่เนดเวดมักโดนวิจารณ์ คือสไตล์การเล่นที่ดูห่างไกลจากคำว่าฟุตบอลที่สวยงาม โดยเฉพาะในลีกอิตาลีที่แฟนบอลคาดหวังที่จะเห็นสิ่งนี้ แต่เขาก็ทดแทนมันด้วยความขยัน เขาเป็นมิดฟิลด์จอมพลังที่วิ่งได้ตลอดทั้งเกมโดยไม่มีวันหมด และเล่นได้ดีทั้งในเกมรุกและเกมรับ  และที่สำคัญยังสามารถยิงประตูได้ทั้งสองเท้า ซึ่งมันทำให้เขาทำในสิ่งที่แม้แต่ซีดานยัง

ทำให้ยูเวนตุสไม่ได้ จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเนดเวดคือการเป็นผู้เล่นที่ขยันซ้อมและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขามักจะเป็นนักเตะที่ออกจากสนามเป็นคนท้ายๆ และใช้เวลาว่างฝึกซ้อมพิเศษด้วยตัวเองอยู่เสมอ “ผมมีพรสวรรค์อยู่บ้างก็จริง แต่ต้องขอบคุณความมุ่งมั่นและอุตสาหะ มันจะไม่สามารถทำได้เลยถ้าไม่มีสิ่งนี้” เนดเวดให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Forbes “ผมคิดว่า 10 เปอร์เซนต์คือพรสวรรค์และที่เหลือคือความพากเพียร อย่างน้อยก็สำหรับผม

UFABETWINS

ในตอนที่ไล่ตามความฝัน มันจะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้และไม่มีเป้าหมายอะไรที่มากเกิน คุณต้องทำเพื่อสิ่งนี้” เขาขึ้นชื่อในฐานะนักเตะที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพราะแม้กระทั่งวันหยุดยาวหลังจบฤดูกาล ในขณะที่ผู้เล่นคนอื่นๆพากันไปอาบแดดตามชายทะเลหรือหรือพักผ่อนอยู่กับบ้าน แต่เนดเวดเลือกที่จะใช้มันไปกับการซ้อม”ถ้าเรามีวันหยุด 4-5 สัปดาห์ ผมพักแค่ 3 วันแรก และหลังจากนั้นก็กลับมาซ้อม ร่างกายมันต้องพร้อมอยู่เสมอ หยุดยาวไม่ใช่เรื่องดี”

เนดเวดกล่าวต่อ หลายคนอาจจะมองว่ามันอาจจะเป็นสิ่งที่เนดเวดปฏิบัติหลังย้ายมาเล่นในลีกอิตาลีเพื่อให้สามารถอยู่รอดในลีกที่โหดหินแห่งนี้ แต่ความเป็นจริง มันคือสิ่งที่เขายึดถือมาตั้งแต่เป็นนักเตะเยาวชนในบ้านเกิด “ผมตระหนักในเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนอายุ 13 โจเซฟ ซาลูเด็ก ซึ่งเป็นโค้ชของผมในตอนนั้นบอกผมว่า ‘นายจะไม่สามารถประสบความสำเร็จโดยไม่ทำงานหนัก'” เนดเวดย้อนความหลัง “ดังนั้น ผมยึดถือสิ่งนี้ไว้ในใจและทำตาม การฝึก

ซ้อมกินเวลา 2 ชั่วโมง แต่เราเล่นฟุตบอลตั้งแต่เช้าถึงเย็น นี่คือสิ่งที่ทำให้ชีวิตฟุตบอลผมเป็นแบบนี้ พอซ้อมเสร็จ ผมก็ซ้อมอีก ซ้อม ซ้อม ซ้อม” “ในเช็ก มันมีวันหยุดฤดูหนาว (ไม่มีเกมตลอด 2 เดือน) ทุกคนบอกผมว่าผมต้องพักผ่อน แต่ผมบอกตัวเองว่า ‘ไม่ หากผมอยากประสบความสำเร็จ ผมค่อยพักวันหลัง'” เนดเวด ค่อนข้างนับถือโค้ชซาลูเด็ก โค้ชในวัยเด็กของเขาเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นโค้ชคนเดียวที่ปลุกปั้น ปีเตอร์ เช็ก อดีตผู้รักษาประตูระดับตำนาน

ของประเทศ เขายอมรับว่าหากไม่มีโค้ชคนนี้ เขาอาจจะไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลกได้อย่างถึงทุกวันนี้ “ผมดีขึ้นเพราะ การฝึกซ้อมพิเศษของโค้ชซาลูเด็ก ทุกคนบอกผมมาตลอดว่าผมยิงดี และผมไม่ได้สนใจว่าจะเป็นเท้าไหน นั่นเป็นเพราะซาลูเด็ก” อดีตกองกลางยูเวนตุสกล่าวถึงอดีตโค้ช “เขาจะเอาเป้าไปวางที่ประตู และผมก็ต้อง ยิงไปตรงนั้น ด้วยเท้าทั้งสองข้าง ตลอดทั้งวัน อีกครั้งและอีกครั้ง ซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ” อย่างไรก็ดี แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่

ทำให้เขาสามารถอดทนกับการซ้อมอย่างยาวนานโดยไม่เหน็ดเหนื่อย คือความหลงใหลในเกมลูกหนังตั้งแต่เด็กของเนดเวด การได้อยู่กับลูกบอลที่เขารัก ได้ปลูกฝังให้เขาสนุกกับกีฬาชนิดนี้ แม้ว่าจะต้องสูญเสียชีวิตในช่วงวัยรุ่นไปก็ตาม “สำหรับผมมันไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าฟุตบอล ตอนที่ฝึกซ้อมมันก็ไม่ได้เป็นภาระสำหรับผม ผมไม่ได้รู้สึกอะไร แม้กระทั่งตอนวัยที่สำคัญมากๆอย่าง 15-17 ปี” อดีตดาวเตะชุดรองแชมป์ยูโร 1996 กล่าว “ผมสนุกกับมัน

ตลอด จึงไม่ค่อยเป็นปัญหาอะไรสำหรับผม มันอาจจะเป็นเรื่องจริงที่บางครั้งผมไม่สามารถไปเที่ยวไหนหรือทำอะไรในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เพราะผมใช้เวลาทั้งวันอยู่ในสนาม”
“บางครั้งผมบอกกับตัวเองว่า ผมชอบชีวิตแบบเด็กผู้ชายทั่วไป ผมมีประสบการณ์นอกสนามบ้าง แต่ก็ไม่มาก ผมเสียใจนิดหน่อยตอนนั้น แต่พอมองย้อนกลับไป ผมก็ไม่ได้เสียใจเลย”
ปรัชญาที่ไม่เคยเปลี่ยน”ผมเป็นหนี้โดเบียสมากสำหรับการกระตุ้นที่ทำให้ผมขึ้นมาระดับนี้ได้” เนดเวดกล่าวกับ Bleacher Report ปัจจุบัน แม้จะแขวนสตั๊ดมาตั้งแต่ปี 2009 แต่เขายัง

UFABETWINS

คงอยู่ในวงการฟุตบอลด้วยการเป็นรองประธานสโมสรยูเวนตุส หลังจากไต่เต้ามาตั้งแต่ตำแหน่งบอร์ดบริหาร จนได้รับการ แต่งตั้งในตำแหน่งนี้ในปี 2015 ซึ่งถือ ว่ามาไกลมากสำหรับนักเตะจากยุโรปตะวันออกคนหนึ่ง”ย้อนกลับไปตอนนั้น ผมมองว่าอิตาลีโหดหินเกินไป ผมอายุ 23 และไม่เคยไปต่างประเทศ แชมป์อิตาลีเป็นเรื่องยากเกินไป มันดูเหมือนมากไปสำหรับผม” เนดเวดกล่าวกับ Financial Times แต่เขาก็สามารถเอาชนะอุปสรรคได้ ที่

นอกจากพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกแล้ว เขายังได้รับเกียรติเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมยุโรปจากนิตยสาร France Football หรือ “บัลลง ดอร์” ในปี 2003 ซึ่งถือเป็นนักเตะชาวเช็ก (รวมเชโกสโลวาเกีย) คนที่สองใน ประวัติศาสตร์ต่อจาก โจเซฟ มาโซปุสต์ ที่ได้รับรางวัลนี้ เขายอมรับว่าการที่เขามาได้ถึงจุดนี้ เขาจำเป็นต้องเสียสละอะไรมากมาย ในวันเด็กเขาเคยป่วยและหมดแรง หรือแม้กระทั่งซ้อมจนแทบเดินกลับบ้านไม่ไหว แต่เขาก็ไม่รู้สึกผิดที่ตัดสินใจเลือกเดินในวิถีนี้ “การทำงานหนักและเสียสละเป็นเรื่องปกติที่จะทำให้ตัวเองดีขึ้นและประสบ

ความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลหรืองานอื่นๆ” เนดเวดกล่าวกับ Financial Times เพราะมันคือสิ่งที่เขาเชื่อมาโดยตลอด และไม่เคยเปลี่ยนไปไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดก็ตาม “ผมเชื่อในสิ่งนี้ มันมีคนมากมายที่ประสบควา มสำเร็จในประเทศของผม และถ้ามองไปที่ เบื้องหลังความสำเร็จนั้น ก็จะเห็นการทำงานหนักและความมุ่งมั่นอยู่เสมอ” “ถ้าผมทำอะไรบางอย่าง ผมอยากให้มันสำเร็จ ดังนั้น ผมจึงสามารถเสีย สละเพื่อมัน ผมจะไม่ทำอะไรถ้าผมรู้ว่าผมไม่สามารถทำมันได้อย่างเต็มร้อย” เนดเวดทิ้งท้าย

คลิ๊กเลย >>>https://www.ufabetwins.com/
อ่านข่าวเพิ่ม >>>บ้านผลบอล