UFABETWINS

UFABETWINS The Wrestler : ภาพยนตร์มวยปล้ำ ภาพสะท้อนของ “มิคกี้ รูค” เทพบุตรฮอลลีวูดยุค 80s

0 Comments

UFABETWINS ไม่ว่าจะขึ้นไปสูงแค่ไหน ประสบความสำเร็จเท่าไร แต่ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ ย่อมหนีไม่พ้นสัจธรรมแห่งชีวิต สิ่งที่เคยคิดว่าแน่นอนวันหนึ่งก็อาจจะไม่แน่นอน สิ่งที่เคยมีวันหนึ่งก็อาจจะสูญเสียมันไป แม้แต่ “มิคกี้ รูค” เองก็เช่นกัน

มิคกี้ รูค คือดาราฮอลลีวูดที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วงทศวรรษที่ 80s ด้วยใบหน้าหล่อเหลาคมคาย จนได้รับฉายาว่า “เทพบุตรคนใหม่แห่งฮอลลีวูด” ทว่าเมื่อถึงจุดหนึ่ง ชีวิตของเขาก็ถึงจุดพลิกผัน และทำให้เขาร่วงลงไปสู่จุดต่ำสุด รูค กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งใน

วัยชรา ด้วยการรับบทนำใน The Wrestler ภาพยนตร์มวยปล้ำที่ราวกับเป็นภาพสะท้อนชีวิตของเขา ซึ่งว่ากันว่า นี่แหละคือการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิต เรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน Main Stand *บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์

เรื่อง The Wrestler หนุ่มตาน้ำข้าวแห่งฮอลลีวูด ฟิลิป อังเดร รูค จูเนียร์ หรือ มิคกี้ รูค ลืมตามดูโลกเมื่อวันที่ 16 กันยายน ปี 1952 ณ รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา พ่อของเขามีเชื้อสายไอริช ส่วนแม่มีเชื้อสายสก็อตแลนด์ สภาพแวดล้อมของครอบครัวถือว่าค่อนข้าง

เคร่งศาสนา เช่นเดียวกับซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูดอีกหลายคนที่มีชีวิตวัยเด็กไม่ค่อยราบรื่นนัก เนื่องจากพ่อกับแม่ของ รูค หย่าร้างกันตั้งแต่เขายังเด็ก ผู้เป็นพ่อหนีหายไป ส่วนแม่ก็ได้แต่งงานใหม่กับ ยูจีน แอดดิส เจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งไมอามีบีช ทำให้ รูค ต้องย้ายที่อยู่จาก

UFABETWINS

นิวยอร์กสู่รัฐฟลอริดา บ้านหลังใหม่ที่เด็กชายไม่คุ้นเคย ด้วยความเป็นเด็กต่างถิ่น รูค จึงเป็นเป้าหมายสำหรับการกลั่นแกล้งจากเด็กคนอื่น ๆ เป็นประจำ กระทั่งวันหนึ่งที่ รูค ไม่อดทนอีกต่อไป เขาจึงตัดสินใจเข้าเรียนการชกมวยเพื่อป้องกันตัวที่ Boys Club of Miami ค่ายมวย

ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขา “นอกจากหน้าตาอันคมคายแล้ว พรสวรรค์เรื่องการชกมวยของเขาก็โดดเด่นไม่แพ้กัน” ครูฝึกมวยคนแรกของ รูค กล่าว ด้วยเหตุนี้วิชาหมัดมวยจึงพา รูค ไปไกลกว่าแค่การป้องกันตัว เด็กหนุ่มก้าวเข้าสู่การเป็นนักมวยสมัครเล่นในปี 1964 และ

สถิติการชกของเขาก็ถือว่าไม่เลว โดยตลอดระยะเวลา 7 ปี รูค เอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้ถึง 27 ไฟต์ โดยเป็นการชนะน็อก 12 ไฟต์ และแพ้ไปเพียงแค่ 3 ไฟต์เท่านั้น แน่นอนว่าในตอนนั้น รูค ฝันถึงการเป็นนักมวยอาชีพ ทว่าในปี 1971 ด้วยอาการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับสมอง

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ รูค หยุดการต่อสู้บนสังเวียนผ้าใบไว้เพียงเท่านี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป รูค ก้มหน้ายอมรับชะตากรรม เขาหันหลังให้กับโลกแห่งหมัดมวย แต่ในขณะที่กำลังรู้สึกเคว้งคว้างกับชีวิต เพื่อนที่มหาวิทยาลัยไมอามีของ รูค ก็บอกกับเขาว่า

“ตอนนี้ละครเวทีเรื่อง Deathwatch ที่ฉันกำกับ อยู่ ๆ นักแสดงนำก็ถอนตัวไปกะทันหัน นายช่วยมาแสดงแทนหน่อยได้ไหม ?” ถึงแม้ รูค จะเคยมีประสบการณ์แสดงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในงานโรงเรียนสมัยมัธยมอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่เคยมองว่าตัวเองจะเติบโตเป็นนักแสดงเลย ทว่า

ในเมื่อตอนนี้เขาก็ไม่รู้จะเอายังไงต่อไป ลองดูก็ไม่เสียหาย ในที่สุด รูค จึงตบปากรับคำ เรียกได้ว่าละครเวทีเรื่อง Deathwatch เปลี่ยนความคิดของ รูค ไปโดยสิ้นเชิง เขาทำได้ดีจนได้รับคำชมจากคนรอบข้าง ความหลงใหลในศาสตร์ด้านนี้ของเขาจึงเริ่มก่อตัวขึ้น ด้วยความ

เป็นเด็กหนุ่มที่ไฟในตัวพลุ่งพล่าน เมื่อค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบแล้ว รูค ก็ไม่รอช้า บากหน้าไปขอยืมเงินจากพี่สาวของเขาเป็นจำนวน 400 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยให้เหตุผลว่า “จะไปตามหาฝันในนิวยอร์ก” เส้นทางของ รูค ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ในช่วงแรกที่มาถึงนิวยอร์ก

เขาต้องทำงานสารพัด ไม่เว้นแต่การเป็นเด็กยกของในโรงละคร เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ และเฝ้ารอว่าสักวันหนึ่งจะเป็นวันของเขา รูค เริ่มได้รับงานแสดงในบทสมทบเล็ก ๆ น้อย ๆ ในช่วงปลายทศวรรษ 70s ก่อนที่ในปี 1981 เขาจะแจ้งเกิดเต็มตัวในภาพยนตร์เรื่อง Body Heat

ด้วยบทบาท เท็ดดี้ ลูอิส ที่ รูค ผสมผสานระหว่างมาดเท่สมชาย กับความนุ่มนวลอ่อนโยนแบบผู้หญิงได้อย่างลงตัว จนทำให้แสงไฟทุกดวงในฮอลลีวูดสาดส่องมาที่เขา พร้อมกับสื่อมวลชนที่ตั้งฉายาให้ว่า “เทพบุตรคนต่อไปแห่งฮอลลีวูด” หลังจาก Body Heat

อาชีพนักแสดงของ รูค ก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยตลอดทศวรรษที่ 80 เขายังได้รับบทนำในภาพยนตร์ฟอร์มเยี่ยมอีกหลายเรื่องเช่น Diner (1982), Rumble Fish (1983), 9½ Weeks (1986), Angel Heart (1987) และ Johnny Handsome (1989) ด้วยฝีมือการ

แสดงและการเป็นที่คลั่งไคล้ของสาว ๆ ทำให้เขาอยู่ห่างจากจุดสูงสุดของอาชีพเพียงแค่เอื้อมเท่านั้น แต่แน่นอนว่าความสำเร็จดังกล่าวไม่ได้จีรังยั่งยืน เพราะมรสุมชีวิตลูกใหม่กำลังมาเยือน รูค ในอีกไม่ช้า และต้นเหตุก็มาจากตัวเขาเอง เทพบุตรตกสวรรค์

UFABETWINS

“การทำงานร่วมกับ มิคกี้ คือฝันร้ายอย่างแท้จริง เขาคือตัวอันตรายในกองถ่าย ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะสามารถทำอะไรได้บ้าง” อลัน พาร์คเกอร์ หนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์ที่ได้ร่วมงานกับ รูค กล่าว “บอกเลย ไม่ว่าก่อนนั้นนายมีหนังเจ๋ง ๆ มากแค่ไหน แต่นับจากนี้นายจะมีแต่หนังห่วย

ๆ เป็นโหล” มิทช์ เกลเซอร์ อีกหนึ่งผู้กำกับภาพยนตร์กล่าวกับ รูค เพียงแค่สองความเห็นนี้ก็น่าจะเพียงพอให้คาดเดาได้ว่า ไม่ใช่แค่ชื่อเสียงเงินทองเท่านั้นที่เพิ่มขึ้น แต่อีโก้ของ รูค ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เขาเริ่มกลายเป็นคนที่ทุกคนเอือมระอา ด้วยพฤติกรรมสำมะเลเทเมา

อารมณ์ร้าย และขาดความรับผิดชอบ ส่งผลให้จากงานแสดงที่เคยหลั่งไหลเข้ามาแบบไม่ขาดสายก็เริ่มลดน้อยลง จนกระทั่งในปี 1991 รูค ที่อยู่ในจุดตกต่ำของอาชีพนักแสดงก็ทำการตัดสินใจอย่างที่ใครไม่คาดคิด เขาโบกมือลาโลกมายา และเดินหน้าเข้าสู่โลกแห่ง

หมัดมวยเป็นคำรบที่ 2 “ผมกลับไปชกมวยเพราะผมคิดว่าผมไม่มีความเคารพตัวเองเลยในฐานะนักแสดง และผมอยากที่จะท้าทายตัวเองอีกครั้ง ในขณะที่ยังพอมีเวลาเหลืออยู่” รูค กล่าวถึงเหตุผล ถึงแม้จะอยู่ในวัย 30 ตอนปลายแล้ว แต่ รูค ก็ยังคงทำได้ดี เขาเริ่มต้นด้วย

การไร้พ่ายติดต่อกัน 8 ไฟต์ โดยเป็นการชนะ 6 ไฟต์ เสมอ 2 ไฟต์ ทว่าบาดแผลที่เขาได้รับกลับมาก็ถือว่าสาหัสไม่ใช่น้อย จมูก นิ้วเท้า โหนกแก้ม และซี่โครงหัก อีกทั้งยังต้องทนทุกข์ทรมานจากการสูญเสียความทรงจำระยะสั้น การบาดเจ็บดังกล่าวทำให้ รูค ต้องเข้าผ่าตัด

หลังจากที่เขาตัดสินใจแขวนนวมจากสาเหตุเรื่องสภาพร่างกาย และกลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้งทุกคนก็ต้องตะลึง เพราะใบหน้าของ รูค นั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก สื่อบางสำนักถึงขั้นพาดหัวข่าวว่า “มิคกี้ รูค กลับมาอีกครั้งพร้อมใบหน้าที่เสียโฉมอย่างหนัก”

แน่นอว่าการกลับมาในครั้งนี้ รูค ไม่ใช่เทพบุตรแห่งฮอลลีวูดอีกต่อไป ตรงกันข้ามเขายังคงวนเวียนอยู่กับความตกต่ำในฐานะนักแสดง บรรดาสตูดิโอพากันเบือนหน้าหนี รูค กลายเป็นรถหรูสภาพเก่าคร่ำคร่าที่ไม่มีใครอยากใช้งาน ผลงานของเขาในทศวรรษที่ 90s-2000s

จึงมีแต่บทสมทบเล็ก ๆ ส่วนถ้าเขาจะได้รับบทนำก็จะเป็นในภาพยนตร์ฟอร์มเล็ก ๆ ที่ไม่ได้เข้าฉายในวงกว้าง เรียกว่าไม่ได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่เขาเคยได้รับในทศวรรษ 80s แม้แต่น้อย “มันเป็นช่วงเวลาที่น่าอับอายและมืดมน ผมแค่อยากจะกดปุ่มแล้วให้ตัวเองหายไปตลอด

กาล” “เมียก็ทิ้งผมไป เงินก็หมดสิ้นแล้ว มีแค่หมาเท่านั้นที่ยังอยู่เป็นเพื่อนผม” “มีช่วงหนึ่งที่ผมเอาแต่เก็บตัวอยู่ในบ้านนานกว่า 5 เดือน” รูค เล่าถึงชีวิตตัวเองในช่วงเวลาดังกล่าว แสงสว่างครั้งใหม่ นานเกือบ 2 ทศวรรษที่ มิคกี้ รูค ถูกเงามืดแห่งฮอลลีวูดบดบังเอาไว้ ก่อนที่ใน

ที่สุดชื่อของเขาจะได้รับการพูดถึงอีกครั้งเมื่อปี 2005 จากบทบาทการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Sin City ของผู้กำกับ โรเบิร์ต โรดริเกวซ ที่ทำให้โลกได้รับรู้อีกครั้งว่า มิคกี้ รูค ยังคงเป็นเสือเฒ่าที่ฝีมือการแสดงยังคงเฉียบคม รูค ได้รับรางวัล Chicago Film Critics

Association, IFTA และ Online Film Critics Society รวมถึง Man of the Year จากนิตยสาร Total Film จากผลงานการแสดงบท มาร์ฟ ตัวเอกในองค์ The Hard Goodbye ของภาพยนตร์ Sin City ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแสดงของ รูค ใน Sin City นั้นยอดเยี่ยม

แต่ความมหัศจรรย์ที่แท้จริงเกิดขึ้นหลังจากนั้น 3 ปี ในปี 2008 รูค ได้รับโอกาสสำคัญอีกครั้งในชีวิต หลังจากที่ ดาร์เรน อโรนอฟสกี ยื่นข้อเสนอให้ รูค รับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง The Wrestler

คลิ๊กเลย >>> UFABETWINS

อ่านข่าวเพิ่ม >>> บ้านผลบอล